ท่าศาลา
ประวัติความเป็นมา
อำเภอท่าศาลา เป็นที่ตั้งของเมืองโบราณเป็นคนไทเผ่าโย จากหลักฐานค้นพบ มีการปกครองระบบหัวเมืองมาแต่ปลายสมัยอยุธยา
อำเภอกลายตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2540 ประกอบด้วย 10 ตำบล จน พ.ศ.2459 เปลี่ยนจากอำเภอกลายเป็นอำเภอท่าศาลา
ลักษณะภูมิประเทศ
อำเภอท่าศาลาตั้งอยู่ริมทะเลอ่าวไทย อยู่ทางทิศเหนือของอำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช ห่างจากจังหวัดประมาณ 28 กิโลเมตร
อำเภอท่าศาลามีพื้นที่ 363,891 ตารางกิโลเมตรบางการปกครองเป็น 10 ตำบล 109 หมู่บ้าน และ 1 เทศบาลตำบล
แบ่งสภาพพื้นที่ ดังนี้ พื้นที่เชิงเขา พื้นที่ราบและที่ราบลุ่ม พื้นที่ราบชายฝั่งทะเล
แหล่งน้ำสำคัญ คลองกลาย คลองท่าเปรง คลองท่าพุด คลองชุมขลิง และคลองในเขียว
ทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ ในเขตอุทยานเขานัน แร่ธาตุ ดีบุกและแบไรท์
ประชากร อำเภอท่าศาลา ปี พ.ศ.2549 มีประชากรทั้งสิ้น 107,286 คน ตั้งแต่ พ.ศ.2539 – 2549 ประชากรเพิ่มขึ้น 3,516 คน
ลักษณะทางเศรษฐกิจ
สภาพทั่วไปขึ้นอยู่กับการผลิตภาคเกษตรกรรม ทำสวนทำนา ทำการประมง โรงอิฐ โรงเลื่อย และค้าขาย
สถานที่ท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขานัน น้ำตกสุนันทา น้ำตกกรุงนาง น้ำตกคลองปาว หาดสระบัว และโบราณคดีโมคลาน
หมู่บ้านตะเคียนดำ
บทสัมภาษณ์ชาวบ้านตะเคียนดำ
ความเป็นมาเมื่อ 150 ปีมาแล้วมีเรือสำเภาจีนมาค้าขายแล้วก็รู้ว่าแถบนี้มีไม้ตะเคียนมากเลยติดขอซื้อขาย เรือก็เลยมาจอดเทียบท่าที่นี้จึงเป็นที่มาของคำว่า ท่าขึ้น คนจีนส่วนหนึ่งที่มากับเรือสำเภามาตั้งรกรากอยู่ที่ตะเคียนดำ ส่วนใหญ่ชาวจีนที่มาจะมาซื้อไม้ตะเคียนจึงเป็นที่มาของหมู่บ้านตะเคียนดำ คนแถบนั้นจะประกอบอาชีพค้าขายและทำการประมงเป็นส่วนใหญ่ มีทั้งชาวพุทธและอิสลามอาศัยอยู่
ปัญหาของชาวบ้านตะเคียนดำ
ชาวบ้านตะเคียนหิน-ท่าขึ้น และชาวบ้านแถบนั้น นับพันคนรวมตัวกันคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน มีการจัดตั้งเวทีเสวนาและลงนามคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่บ้านตะเคียนดำ ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลาแกนนำได้กล่าวว่า “หมู่บ้านของเราเป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆถ้าหากโรงไฟฟ้าถ่านหินมาจัดตั้งที่นี้ ก็เท่ากับทำลายที่ทำมาหากินของเราจนหมด เราจะอยู่กันอย่างไร” เพราะมันทำให้น้ำทะเลเสีย อากาศเป็นพิษ แม้พวกการไฟฟ้าจะยืนยันว่าถ่านหินที่ใช้ไม่ใช่ชนิดที่สกปรกชาวบ้านตะเคียนดำก็ยังยืนว่าไม่ต้องการโรงไฟฟ้าถ่านหินเพราะเป็นกันทำลายที่อยู่ อาชีพ และวิถีชีวิตเดิมของชาวบ้านตะเคียนดำ